คุณแม่อุษา ทวีแสงสกุลไทย

คุณแม่อุษา ทวีแสงสกุลไทย

ด้วยรักและผูกพัน..จากบรรพบุรุษ...เสริมเติมต่อ...สู่ปัจจุบัน....

ช่วยหารายได้สร้างโรงเรียน กว่า 10 ล้านบาท

คุณแม่อุษา ทวีแสงสกุลไทย หนึ่งหญิงที่เฝ้ามองความเปลี่ยนแปลง และการพัฒนาของ ?โรงเรียนฮั่วเคี้ยววิทยาลัย? เริ่มจากที่ไม่มีแม้เงินที่จะดำเนินการใดๆ แต่การรวมตัวของเหล่าพ่อค้า และประชาชนในพื้นที่ ทำให้มีโรงเรียนฮั่วเคี้ยวขึ้นมา เมื่อมีโรงเรียนจึงเป็นสถานที่รวมตัวของทุกๆ คน ในพื้นที่ เพื่อพักผ่อนในช่วยเย็นๆ หลังเสร็จภารกิจจากการค้าขาย เป็นที่ออกกำลังกาย โดยมีกีฬาทุกประเภท ทุกคนจะมารวมตัวที่โรงเรียนนี้เป็นประจำทุกวัน นอกจากเล่นกีฬาแล้ว ยังเป็นสถานที่ปรึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในธุรกิจของแต่ละคน แต่ละอาชีพ ซึ่งเป็นเพียงสถานที่เดียวในการรวมตัวของทุกคนในขณะนั้น

ความผูกพันที่มีต่อ โรงเรียนฮั่วเคี้ยว คุณแม่อุษาฯ เล่าให้ฟังว่า มาอยู่จังหวัดขอนแก่น เมื่อตอนอายุเพียง 24 ปี ช่วยคุณชอ สามี ทำงานบ้าน และดูแลกิจการโรงสีข้าว และมองหากิจการที่เป็นของตนเองเพื่อครอบครัวในอนาคต จึงหาเช่าบ้าน 2 ห้อง ที่ถนนหน้าเมือง คุณชอ มองว่าธุรกิจต้องมีการพัฒนาและเจริญขึ้น จึงหาอะไหล่รถยนต์มาขาย ซึ่งสมัยก่อนการเดินทางล่องกรุงเทพฯ มีเพียงรถไฟเพียงเส้นทางเดียว และใช้เวลาในการเดินทางมากกว่า 1 วัน การที่นำอะไหล่รถยนต์มาขายจึงทำให้ลูกค้าที่ใช้รถดีใจมากที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปซื้ออะไหล่เอง ที่ร้านจึงขายดีมาก ทุกเย็น คุณชอ ต้องไปที่โรงเรียน เล่นเตะบอลบ้าง เล่นแบดมินตันบ้าง สมัยนั้นร้านค้า และประชาชนมีไม่มากนัก ทำให้รู้จักกันหมดทุกครัวเรือน ส่วนตัวคุณแม่อุษา มีเพื่อนเป็นครูสอนที่โรงเรียน หลังเล่นกีฬา คุณชอ และ เพื่อนๆ ซึ่งนับว่าแทบครบทุกคนที่อยู่ในขอนแก่น จะร่วมกันปรึกษาทุกเรื่อง รวมทั้งการปรับปรุง ขยาย หรือต่อเติมโรงเรียน ส่วนเงินที่ใช้ในการปรับปรุง เป็นการบริจาคช่วยกัน พร้อมทั้งลงแรงในการปรับปรุง ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี

?

คุณชอ เป็นหนึ่งในคณะกรรมการก่อตั้ง โรงเรียนฮั่วเคี้ยว เช่นกัน และเป็นกรรมการอุปถัมภ์โรงเรียนมากว่า 40 ปี ทุกครั้งที่มีการปรับปรุงจะร่วมกันช่วยเสมอมิได้ขาด ในการสร้างอาคารเรียนครั้งนี้ เพื่อรองรับการเติบโตของการศึกษาที่จะมีการขยายต่อไปในอนาคต ถึงวันนี้ไม่มีคุณชอ แต่คุณแม่อุษา ยังคงผูกพันกับโรงเรียน เสมือนเป็นบ้านหลังที่สอง เมื่อเห็นว่า การก่อสร้างอาคารเรียนเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม คุณแม่อุษา จึงช่วยบริจาคด้วยเงินส่วนตัว แต่ยังขาดปัจจัยอีก จึงนำคณะกรรมการร่วมหารายได้จากส่วนต่างๆ โดยพาไปพบเพื่อนที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการก่อตั้งโรงเรียน และเคยทำงานร่วมกันมาเมื่อครั้งเปิดโรงสีทวีแสงไทย คุณโกเมน ตันติวิฒน์พันธ์ ขณะนี้ท่านมีอายุร่วม 94 ปี แต่ยังคงแข็งแรง ชอบช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ชอบทำบุญ ซึ่งความผูกพันที่คุณแม่ และเพื่อน ที่มีต่อโรงเรียนฮั่วเคี้ยวนี้ เมื่อคุณแม่อุษา เอ่ยปากถึงการสร้างโรงเรียน ฯ คุณโกเมนฯ ถามว่า ?ผมช่วย 10 ล้าน น้อยไปไหม? ซึ่งเป็นน้ำใจที่คณะกรรมการทุกท่านรู้ซึ้งถึงความเอื้ออาทรที่ท่านตั้งใจมอบให้ ในการสร้างความเจริญกับ โรงเรียนฮั่วเคี้ยว อย่างแท้จริง

ในอนาคตต่อไปภายหน้า คุณแม่อุษาฯ บอกว่า อยากให้ลูกหลาน และเด็กๆ ทุกคนมองเห็นความสำคัญของการใช้ ภาษามากขึ้น การเรียนรู้อย่างครบทุกรูปแบบที่ โรงเรียนฮั่วเคี้ยววิทยาลัย มีการสอนถึง 3 ภาษา หลักที่จำเป็นต้องเรียนรู้ และหากเริ่มเรียนตั้งแต่เด็กชั้นอนุบาลขึ้นไป เชื่อว่า เยาวชนทุกคนจะเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญ เป็นโรงเรียนที่อยู่ใจกลางเมืองขอนแก่น ไม่จำเป็นต้องเดินทางไกล ไม่ใช้รถก็ได้ เป็นความสะดวกสบาย และเป็นโรงเรียนที่สร้างอย่างได้มาตรฐาน อยากให้ พ่อ-แม่ พูดกับลูกหลานอย่างมีเหตุผล ถึงความสำคัญ การเรียนรู้ภาษาสากล ทั้งภาษาจีน ภาษาอังกฤษ ซึ่งจะเป็นภาษาสากล ที่ทุกคนต้องใช้ต่อไป

กว่าจะมาถึงวันนี้ ผู้ที่ร่วมบุกเบิกขอนแก่น ไม่มีแม้แต่น้ำที่จะดื่ม หรือใช้สอยในชีวิตประจำวัน การที่บรรพบุรุษได้ร่วมกันสร้างโรงเรียนขึ้นมา เพื่อต้องการให้ลูกหลานสบายต่อไปในอนาคต ??สิ่งที่เห็นเป็นความสบายทุกวันนี้ เกิดจากความลำบากของบรรพบุรุษ? เป็นความห่วงใยที่ คุณแม่อุษา ทวีแสงสกุลไทย มีต่อลูกหลานทุกคน

สุพัตรา ศุขโข ... รายงาน